1. いま –じ-ふんです
การบอกเวลาทำได้โดยการวางลักษณะนามเกี่ยวกับเวลา คือ
じ
(โมง นาฬิกา)
ふん
(นาที)ไว้ข้างหลังตัวเลข จะอ่านเป็น
ふん
เมื่อมีตัวเลข 2,5,7,9 อยู่ข้างหน้า และจะอ่าน
ぷん
เมื่อตัวเลข 1,3,4,6,8,10 อยู่ข้างหน้า เมื่อตัวเลข 1,6,8,10
อยู่หน้าคำ
ぷん
จะอ่านดังนี้
いっ ろっ
はっ
じゅっ [じっ]
การถามลักษณะนามที่มีตัวเลขอยู่ด้วย ให้ใส่คำว่า
なん
ข้างหน้าลักษณะนามนั้นและเมื่อเวลาใช้
なん-じหรือ
なん-ぷん
(1)
いま なん-じ
ですか。
ตอนนี้กี่โมง
...7-じ
10 –ぷんです。
...7 โมง 10 นาที
(หมายเหตุ) ในบทที่ 1 เรียนเรื่องเกี่ยวกับ
は
แสดงการเป็นหัวข้อเรื่องของประโยค สำหรับ ข้อ2 ข้างล่างนี้
は
ใช้กับสถานที่แสดงการเป็นหัวข้อเรื่องของประโยค
(2)
ニュ-ヨ-クは
いま なんじ ですか。ที่นิวยอร์กขณะนี้กี่โมง
...ごぜん4-じです。
...ตี 4
2. คำกริยารูป
ます
1) คำกริยา
ますทำหน้าที่เป็นภาคแสดง
2)
ます
เป็นภาษาสุภาพที่ผู้พูดพูดกับผู้ฟัง
(3)
わたしは まいにち べんきょうします。
ผม/ดิฉันเรียนหนังสือทุกวัน
3. คำกริยา
ます
/ คำกริยา
ません
/ คำกริยา
ました/
คำกริยา
ませんでした
1)
ます
เป็นหางคำกริยาที่แสดงการกระทำที่เกิดขึ้นในอนาคต หรือ
การกระทำที่ทำเป็นประจำ หรือ ข้อเท็จจริง กรณีเป็นรูปปฏิเสธ หรือ
แสดงกาลเวลาในอดีตกาลหางคำจะเปลี่ยนไปดังนี้
( ปัจจุบัน , อนาคต )
|
อดีตกาล
|
|
บอกเล่า
|
(
おき)
ます
|
(
おき
)
ました
|
ปฏิเสธ
|
(
おき
)
ません
|
(
おき
)
ませんでした
|
(4)
まいあさ 6-じに おきます。
ทุกเช้าตื่นนอน 6 โมง
(5)
あした 6-じに
おきます。 พรุ่งนี้จะตื่นนอน
6 โมง
(6)
けさ 6-じに おきました。
เมื่อเช้าตื่นนอน 6 โมง
2) การทำประโยคที่คำกริยาเป็นภาคแสดงให้เป็นประโยคคำถาม
ทำได้โดยเติม
か
เข้าข้างหลังท้ายประโยคเช่นเดียวกับ
ประโยคที่คำนามเป็นภาคแสดง
การตอบคำถามคือ พูดซ้ำคำกริยาที่มีในประโยคคำถาม
จะไม่สามารถตอบด้วย
そうですหรือ
そう
じゃ ありません
ได้
(7)
きのう
べんきよう-しましたか。
เมื่อวานนี้เรียนหนังสือหรือปล่า
...はい
べんきょう-しました。
...เรียนครับ/ค่ะ
...いいえ
べんきょうしませんでした。
...เปล่า ไม่ได้เรียนครับ/ค่ะ
(8)
まいあさ なん-じに おきますか。
ทุกเช้าตื่นนอนกี่โมง
...6 –じに おきます。
...ตื่นนอน 6 โมง
4. คำนาม (เวลา)
に
คำกริยา
การแสดงจุดเวลาของการกระทำที่เกิดขึ้นให้เติมคำช่วย
に
ไว้ข้างหลังคำนามที่แสดงเวลา
และรวมถึงประโยคที่การกระทำจบในเวลาชั่วครูด้วย
に
ใช้กับประโยคคำนามเกี่ยวกับเวลาที่มีตัวเลขแสดง
หากไม่มีตัวเลขแสดงจะไม่ใช้ แต่สำหรับวันจะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้
(9) 6 –じに おきます。
ตื่นนอน 6 โมง
(10) 7-がつ
すつかに にほんへ きました。
มาญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 2 เดือนกรกฎาคม
(11)
にちようび [に]
ならへ いきました。
จะไปนาระวันอาทิตย์
(12)
きのう
べんきょうしました。
เรียนหนังสือเมื่อวาน
5. คำนาม1
から
คำนาม2 まで
1)
から
ใช้บอกจุดเริ่มต้นของเวลา และ สถานที่
まで
ใช้บอกจุดจบของเวลา และ สถานที่
(13) 9-じ
から 5-じ
まで
はたらきまし。
ทำงานตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น
(14)
おおさか
から
とうきょう
まで 3 –じかん
かかります。
จากโอซาก้าถึงโตเกียวใช้เวลา 3 ชั่วโมง
2) ไม่จำเป็นต้องใช้
から
และ
まで
ด้วยกันเสมอไป
(15) 9-じ
から
はたらきます。
ทำงานตั้งแต่ 9 โมงเช้า
3) เลือกใช้
です
หลังคำ ~
から~までหรือ
~
から ~まで
แบบใดก็ได้เพื่อจบประโยค
(16)
ぎんこうは 9-じから
3-じまでです。
ธนาคารเปิดตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 3 โมงเย็น
(17)
ひるやすみは 12-じからです。
พักกลางวันตั้งแต่เวลา
12 โมง (เที่ยง)
6. คำนาม1
と
คำนาม2
ประโยคที่มีคำนามเรียงตามกัน จะใช้
と
เชื่อมระหว่างคำนามนั้น ๆ
(18)
ぎんこう
の
やすみは
ど-ようび と にちようびです。
ธนาคารหยุดวันเสาร์กับวันอาทิตย์
7. ประโยค
ね
ใช้
ね
ต่อท้ายประโยค แสดงความรู้สึกต่อเรื่องของผู้พูดว่า
มีความรู้สึกเป็นอย่างเดียวกัน หรือหวังที่จะได้รับการยืนยัน
หรือยินยอมจากผู้พูด สำหรับความหมายหลังนี้
ね
จะทำหน้าที่ยืนยันในเรื่องที่พูด
(19)
まいにち 10-じごろ まで べんきょうします。
...たいへんですね。
ฉันเรียนหนังสือถึงประมาณสี่ทุ่มทุกวัน
...เหนื่อยแย่เลยนะ
(20)
やまださんの でんわばんごうは
871
の 6813
です
...871
の 6813
ですね。
หมายเลขโทรศัพท์ของคุณยามาดะคือ 871-6813
...871-6813
ใช่ไหมครับ/คะ
ไวยากรณ์บทที่ 5
1. คำนาม (สถานที่) へ いきます / きます / かえります
เมื่อจะใช้คำกริยาแสดงอาการเคลื่อนย้ายสถานที่ จะใช้คำช่วย
e
กับทิศทางที่เคลื่อนย้าย
(1)
きゅうと へ いきます。
ผม/ดิฉันจะไปโตเกียว
(2)
にほん へ きました。
ผม/ดิฉันมาญี่ปุ่น
(3)
うちへ かえります。 ผม/ดิฉันจะกลับบ้าน
2.
どこ [へ]もいきません
/
いきませんでした
เมื่อต้องการให้คำปุจฉาสรรพนามเป็นรูปปฏิเสธ ทำได้โดยการเติมคำช่วย
mo
ที่ข้างหลังเพื่อแสดงการปฏิเสธทั้งหมด
การใช้เหมือนกับรูปปฏิเสธทั่วไป
(4)
どこ [へ]
も
いきません。
ไม่ได้ไปไหนเลย
(5)
にほんも たべません。
ไม่ทานอะไรเลย
(6)
だれも いません。.
ไม่มีใครอยู่เลย
3. คำนาม (ยานพาหนะ)
で いきます/
きます /
かえります
คำช่วย
で
แสดงความหมายถึง วิธี วิธีการ
หากวางไว้ข้างหลังคำนามที่เป็นยานพาหนะ
แล้วต่อด้วยคำกริยาที่มีการเคลื่อนที่ (
いきます /
きます /
かえります
ฯลฯ ) จะแสดงวิธีการในการเคลื่อนที่ว่าเคลื่อนที่ไปโดยอะไร
(7)
でんしゃで いきます。
ไปโดยรถไฟฟ้า
(8)
タクシ-で きました。
มาโดยรถแท็กซี่
กรณีที่การเคลื่อนที่ทำโดยการเดิน จะไม่ใช้คำช่วย
で
แต่จะใช้คำว่า
あるいて
แทน
(9)
えきから あるいて かえりました。
เดินกลับมาจากสถานี
4. คำนาม (บุคคล/สัตว์)
と
คำกริยา
เมื่อมีการกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วยกันกับบุคคล
(สัตว์) ให้ใช้คำช่วยと
(10)
かぞく
と にほんへ きました。
มาญี่ปุ่นกับครอบครัว
หากการกระทำนั้นกระทำเพียงคนเดียว จะใช้คำ
ひとりでและในกรณีนี้จะไม่ใช้คำช่วย
と
(11)
ひとりで とうきょう へ いきます。จะไปโตเกียวคนเดียว
5.
いつ
ในการถามเรื่องเวลา นอกเหนือจากการใช้คำแสดงคำถาม
なん
เช่น
なん-じなん-ようびなん-がつなん-にち
แล้ว ยังใช้คำว่า
いつ
(เมื่อไร) ด้วย และไม่ต้องใส่คำช่วย ตามหลัง
いつ
(12)
いつ にほん へ きましたか。
มาญี่ปุ่นเมื่อไร
...3-がつ
25-にちに きました。
...มาเมื่อวันที่ 25 มีนาคม
(13)
いつ
ひろしま
へ いきますか。จะไปฮิโรชิมาเมื่อไร
...
来週 生きます。
...จะไปอาทิตย์หน้า
6. ประโยค
よ
よ
เป็นคำช่วยใช้จบประโยคแสดงอารมณ์ของผู้พูด หรือ
บอกกล่าวเรื่องราวให้ฝ่ายตรงข้ามผู้ไม่รู้อะไรได้รับทราบ
และยังใช้เมื่อต้องการจะเน้นความรู้สึก ความเห็นของตนเองต่อผู้ฟัง
(14)
この でんしゃは こうしえん へ いきますか。
...いいえいきません。
つぎ の ふつう ですよ。
รถไฟขบวนนี้ไปโคชิเอ็นหรือเปล่า
...ไม่ไป ต้องรถไฟธรรมดาเที่ยวต่อไปแน่ะ
(15)
むりな ダイエットは からだに よくないですよ。
การลดความอ้วนหักโหมเกินไป ไม่ดีต่อสุภาพนะ
ไวยากรณ์บทที่ 61. คำนาม を (สกรรม) กริยา
กรรมตรงของสกรรมกริยาจะแสดงโดยการใช้คำช่วย
を
(1)
ジュース を のみます。
ผม/ดิฉันดื่มน้ำผลไม้
2.
คำนาม
を します
คำที่แสดงกรรมของกริยา
します
จะเป็นคำนามที่มีความหมายกว้าง ๆ
และคำดังกล่าวจะเป็นตัวบอกเนื้อหาที่แท้จริงของกริยา
ดังตัวอย่างต่อไปนี้
1) “เล่น”
กีฬา, เกม ฯลฯ
サッカ-を します。
เล่นฟุตบอล
トランプ
を
します。
เล่นไพ่
2) “จัด”
ชุมนุมกัน, พบกัน, จัดงาน ฯลฯ
パーテイ を します。
จัดงานปาร์ตี้
かいぎ を します。
ประชุม
3) ทำ ~
しゅくだい を します。
ทำการบ้าน
しごと を します。
ทำงาน
3.
なに を しますか
เป็นประโยคคำถามใช้ถามว่าจะทำอย่างไร
(2)
げつ-ようび
なに 何 を しますか。
คุณจะทำอะไรในวันเสาร์
...きょうと へ いきます。
...จะไปโตเกียว
(3)
きのう
なに
を
しましたか。 คุณทำอะไรเมื่อวาน
...
サッカ-
を しました。
... เล่นฟุตบอล
( หมายเหตุ ) สามารถใช้
wa
ได้กับ วัน คำพูดแสดงกาลเวลา เพื่อแสดงการเป็นหัวข้อเรื่อง
(4)
げつ-ようびは なに を しますか。
วันจันทร์คุณจะทำอะไร
...きょうと へ いきます。
...จะไปโตเกียว
4.
なん
และ
なに
なん
และ
なに
มีความหมายเหมือนกัน แปลว่า
“อะไร”
1) ใช้
なん
ได้ในกรณีดังต่อไปนี้
- กรณีที่พยัญชนะตัวแรกของคำที่ตามมาข้างหลัง
เป็นพยัญชนะวรรค
た,
だ,
な,
(5)
それは なんですか。
นั่นคืออะไร
(6)
なんの ほん ですか。
หนังสือเกี่ยวกับอะไร
- กรณีวางหน้าลักษณะนามแสดงความหมายกี่
~,
~
เท่าไร
(8)
テレサ-ちゃんは なんさい ですか。
หนูเทเรซ่าอายุเท่าไร
2) นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้ว ให้ใช้
なに
(9)
なに を かいますか。
จะซื้ออะไร
5.
คำนาม (สถานที่)
で
คำกริยา
คำช่วย
で
วางไว้หลังคำนาม (สถานที่) แสดงสถานที่ที่เกิดการกระทำ
(10)
えきで しんぶん を かいます。
ซื้อหนังสือพิมพ์ที่สถานี (รถไฟ)
6.
คำกริยา
ませんか
แสดงการชักชวนให้คู่สนทนากระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดร่วมกัน
(11)
いっしょに きょうと へ いきませんか。
ไปเกียวโตด้วยกันไหม
...ええいい
ですね。
...ครับ/ค่ะ ดีจัง
7.
คำกริยา
ましょう
การแสดงข้อเสนอ หรือ การชักชวนแบบแสดงเจตจำนงของผู้พูดต่อผู้ฟัง
และหรือใช้เป็นคำตอบอย่างจงใจต่อข้อเสนอ หรือคำชักชวน
(12)
ちょっと やすみましょう。 หยุดพักกันสักครู่เถอะ
(13)
いっしょに ひるごはん を たべませんか。
ทานข้าวกลางวันด้วยกันไหม
...
ええたべましょう。
...ครับ/ค่ะ ทานด้วยกันสิ
( หมายเหตุ ) คำกริยา
ませんかกับ
คำกริยา
ましょう
ทั้งสองคำนี้แสดงความหมายถึงการชักชวนแต่คำกริยา
ませんかจะเป็นประโยคในลักษณะถามเจตจำนงของผู้ฟังมากกว่า
ましょう
8.
お
~
お
เป็นคำเติมหน้า แสดงให้เห็นว่าผู้พูดพูดให้เกียรติผู้ฟัง
และบุคคลที่สาม
( ตัวอย่าง : [お]
くに
ประเทศ )
นอกจากนี้ o
ยังใช้เติมข้างหน้าคำอื่น ๆ ได้อีกมากมาย แสดงถึงการพูดที่สุภาพ
( ตัวอย่าง : [お]
さけ
เหล้า : [お]
はなみ
การชะมดอกซากุระ )
และไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้กรณีพูดสุภาพ
หรือด้วยความเคารพเท่านั้น แต่ปกติธรรมดาคำบางคำก็มี
o
อยู่ด้วย
( ตัวอย่าง :
おちゃ
(น้ำ) ชา
おかね
เงิน )
ไวยากรณ์บทที่ 7
1.
คำนาม (เครื่องมือ เครื่องใช้สอย/วิธีการ)
で
คำกริยา
คำช่วย
で
แสดงให้ทราบถึง วิธีการ และ วิธีในการ...
(1)
はしで たべます。
ทานด้วยตะเกียบ
(2)
にほんごで レポ-ト を かきます。
เขียนรายงานเป็นภาษาญี่ปุ่น
2. “คำ
/ ประโยค”
は ~เご で なんですか
ประโยคคำถามนี้ ใช้ถามเมื่อต้องการอยากทราบว่า คำ ประโยค
ในภาษาอื่นเรียกว่า ( หมายความว่า ) อะไร
(3) “ありがとう”
は
えいごで なんですか。
...“Thank you”
です。
คำว่า“Arigato”
เรียกว่าอะไรในภาษาอังกฤษ
...
“Thank you”
(4)“Thank you”
は にほんごで なんですか。
...
“Arigato”
です。
คำว่า “Thank you”
เรียกว่าอะไรในภาษาญี่ปุ่น
...
“Arigato”
3. คำนาม (บุคคล)
に あげますฯลฯ
คำกริยา
あげますかしますおしえます
จะใช้คำช่วย
に
กับผู้ซึ่งเป็นผู้รับ ผู้ยืม และผู้รับการสอนที่เป็นบุคคล
(5)
やまださん を あげました。
คุณยามาดะให้ดอกไม้แก่คุณคิมุระ
(6)
イイ-さんに ほん を かしました。
ผม/ดิฉัน ให้คุณอียืมหนังสือ
(7)
たろうくんに えいご を おしえます。
ผม/ดิฉัน สอนภาษาอักฤษให้ทาโร่
( หมายเหตุ ) คำ
おくります
และคำ
でんわ を かけますทั้งสองคำนี้ผู้รับอาจไม่ได้เป็นบุคคลแต่เป็นคำนามที่เป็นสถานที่ก็ได้
กรณีนี้นอกจากคำช่วย
に
แล้ว ยังใช้
へ
ก็ได้
(8)
かいしゃに でんわ を かけます。
[へ]
โทรศัพท์ไปบริษัท
4. คำนาม (บุคคล)
に
もらいます
ฯลฯ
คำกริยา
もらいます,
かりますならいます
เป็นคำแสดงการกระทำของฝ่ายผู้รับ เช่น ได้รับ, ขอยืม,เรียน
จะใช้คำช่วย
に
กับฝ่ายผู้ให้
(9)
きむらさんは やまださんに はな を もらいました。
คุณคิมุระได้รับดอกไม้จากคุณยามาดะ
(10)
かりなさんに CD
を かりました。
ยืม CD
จากคุณคะรินะ
(11)
ワンさんに ちゅうごくご を ならいます。
เรียนภาษาจีนจากคุณวัน
จากรูปประโยคข้างบนนี้ สามารถใช้
から
แทน
に
ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากฝ่ายผู้ให้ไม่ได้เป็นบุคคลแต่เป็น บริษัท
โรงเรียน หรือองค์กร จะไม่ใช้
に
แต่จะใช้
から
(12)
きむらさんは やまださんから はな を もらいました。
คุณคิมุระได้รับดอกไม้จากคุณยามาดะ
(13)
ぎんこうから おかね を かりました。
ผม/ดิฉัน กู้เงินจากธนาคาร
5.
もう
คำกริยา
ました
もうมีความหมายว่า
“...แล้ว”
ใช้ควบคู่กับ “คำกริยา
ました
”
ในกรณีนี้ “คำกริยา
ました
”
จะมีความหมายแสดงว่า
การกระทำหรือเรื่องราวในปัจจุบันได้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว
การตอบคำถามประโยค “もう
คำกริยา
ましたか”
ตอบรับ ใช้ “はい
もう
คำกริยา
ました”
ตอบปฏิเสธใช้ “いいえまだです”
(14)
もう
にもつ を おくりましたか。ส่งของแล้วหรือยัง
...はい[もう]
おくりました。
ครับ/ค่ะ ส่งแล้ว
...いいえまだです。
ยังครับ/ค่ะ
กรณีที่ตอบปฏิเสธรูปประโยคนี้ ไม่สามารถใช้รูป
“คำกริยา
ませんでした”
ได้ เพราะรูป “คำกริยา
ませんでした”
หมายถึงการไม่ได้ทำสิ่งนั้นในอดีตกาล
มิได้หมายถึงยังไม่ได้ทำสิ่งนั้นจนถึงขณะนี้